การจัดงานแต่งงานครั้งหนึ่งในชีวิต ย่อมเป็นเสมือนโลกใหม่สำหรับว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวหลายคนค่ะ วันนี้ Weddinglist จึงมี 12 ขั้นตอนการวางแผนงานแต่งงาน หรือ Wedding Plan สำหรับวางแผนงานแต่งงานตั้งแต่ดูฤกษ์จนพร้อมแต่ง ภายในระยะเวลา 6 เดือนจาก The Grand Fourwings Convention Hotel Bangkok มาฝากกันค่ะ
ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/Faheverphotography
ดูฤกษ์ เลือกวัน
การดูฤกษ์ดี ดิถีเรียงหมอนนี้ ส่วนมากจะเลือกช่วงเวลาที่บ่าวสาวและผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายสะดวกที่สุดก่อน จากนั้นจึงยกให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ในการไปขอฤกษ์จากพระสงฆ์หรือซินแส ตามความเชื่อและศรัทธา โดยจะมีทั้งฤกษ์สู่ขอ ฤกษ์หมั้น และฤกษ์แต่งงาน
การเลือกเวลาที่เหมาะสมนั้นควรจะเผื่อเวลาสำหรับเตรียมงานสัก 6 เดือนเป็นอย่างน้อย เพราะการจัดงานแต่งงานและเตรียมรายละเอียดทุกอย่างต้องใช้เวลาค่ะ หากเลือกวันเวลาที่กระชั้นชิดเกินไป นอกจากจะเสี่ยงที่จะจัดการแต่ละอย่างไม่ทัน ยังทำให้เป็นการสร้างความกดดันให้ว่าที่บ่าวสาวเองด้วยค่ะ
ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/Faheverphotography
รวบรวมรายชื่อ
ขั้นตอนรวบรวมรายชื่อนั้น ขั้นแรกว่าที่บ่าวสาวและผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมกันตัดสินใจว่าอยากจัดงานแต่งงานสเกลเล็กใหญ่แค่ไหน อยากจัดงานแต่งแบบเป็นส่วนตัวและอบอุ่นหน่อยก็อาจจะลิสต์แค่รายชื่อครอบครัว ญาติ เพื่อนฝูงที่สนิทสนมจริง ๆ แต่หากว่าที่บ่าวสาวหรือพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายเป็นคนมีสถานะทางสังคมหรือทำธุรกิจที่มีคู่ค้ามากมาย อาจต้องจัดงานแต่งงานสเกลขนาดใหญ่ เชิญแขกเหรื่อทั้งวงนอกวงในบวกรายชื่อลูกค้า หรือ Partner ทางธุรกิจการงานก็ว่ากันไป ซึ่งในบริบทที่จัดงานใหญ่หน่อย ว่าที่บ่าวสาวอาจต้องเตรียมการสำรองไว้สำหรับแขกที่อาจเกินจำนวนมาอีกด้วยนะคะ
ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/Faheverphotography
หาสถานที่
เมื่อได้จำนวนรายชื่อแขกแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการหาสถานที่ค่ะ ปัจจัยสำคัญสำหรับการเลือกสถานที่สำหรับจัดงานแต่งงาน คือ
– รองรับแขกได้เพียงพอ
ก่อนอื่นคือหาสถานที่ ๆ สามารถรองรับแขกได้อย่างเพียงพอ โดยที่ยังพอมีพื้นที่ ไม่แออัดเบียดเสียดจนเกินไป จะได้ไม่เกิดปัญหาในการควบคุมจัดการในคืนวันงานค่ะ
– เหมาะสมกับงบประมาณ
ในที่นี้ควรคำนวณตัวเลขแบบเผื่อ ๆ เอาไว้สำหรับค่าโต๊ะสำรอง(หากเป็นโต๊ะจีน) หรือซุ้มอาหารที่อาจไม่เพียงพอเอาไว้ พร้อมทั้งรวมค่าใช้จ่ายสำหรับการนำเข้าบริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะ Organizer หากมี, เครื่องดื่ม, นักดนตรี หากมี เอาไว้ด้วยก็ดี เรื่องงบประมาณสถานที่จะได้ไม่บานปลายเกินจากแผนทีหลังค่ะ
– รองรับธีมของงานแต่งงาน
งานแต่งงานครั้งเดียวในชีวิต คู่ว่าที่บ่าวสาวอาจจะมีธีมงาน หรือสไตล์งานแต่งงานในใจ ไม่ว่าจะชื่นชอบสไตล์คลาสสิค โมเดิร์น วินเทจ หรือ Night Party ไปจนถึงเลิศหรูอลังการ ฯลฯ สถานที่กับธีมงานไม่ควรขัดแย้งกันจนเกินไป เช่นจัดงานสไตล์ไทยย้อนยุคในห้องสไตล์โมเดิร์น ฯลฯ
– ทำเลที่ตั้ง
ควรเลือกสถานที่ ๆ มีเส้นทางเข้าถึงสะดวก ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่พักเกินไป หากอยู่ในเขตกรุงเทพฯ อาจต้องเลือกสถานที่ ๆ อยู่ในละแวกย่านที่คนรู้จัก เดินทางสะดวก เช่น อยู่ใกล้กับทางด่วน หรือสถานีรถไฟฟ้า BTS, MRT หรือแอร์พอร์ตลิ้ง ฯลฯ ค่ะ
เลือกธีมงานแต่งงาน
เมื่อหาสถานที่ ๆ พอเหมาะกับจำนวนแขก และตอบโจทย์ตรงใจตามเงื่อนไขที่ต้องการแล้ว ก็ต้องเริ่มเลือกธีมงานและวาง Concept งานให้เป็นรูปเป็นร่าง นำภาพงานแต่งงานในฝันออกมาสู่แบบแผนงานที่จับต้องได้ เริ่มจากวางธีมภาพรวมของงาน เช่น ธีมโฉมงามกับเจ้าชายอสูร, คู่รักชาวร็อคยุค 90s, เจ้าหญิงในสวนดอกไม้ ฯลฯ เพื่อกำหนดสไตล์ของ Decorate และกลิ่นอายโดยรวมของงาน จากนั้นก็เลือกธีมสีสัก 2-3 คู่สีพอประมาณ
ภาพงานแต่งงานในหัวของว่าที่บ่าวสาวยิ่งชัดเจนเท่าไหร่ การเตรียมงาน หรือหา Organizer เพื่อมาจัดงานก็จะยิ่งง่ายขึ้น ควรวางรูปแบบให้ละเอียดตั้งแต่หน้าโต๊ะลงทะเบียน ซุ้มทางเข้า รูปแบบ Backdrop หน้าเวที ไปจนถึงการจัดดอกไม้ทั้งหมดในงาน รวมทั้งธีมชุดของแขก วงดนตรี(หากมี) ฯลฯ
ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/Faheverphotography
เลือก Organizer ที่ถูกใจ
เมื่อได้ Concept งานที่ต้องการแล้ว หากว่าที่บ่าวสาวไม่ประสงค์จัดงานด้วยตัวเอง การมองหา Organizer ที่ใช่ก็เป็นทางออกที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเลือกจัดงานแต่งงานที่โรงแรม หรือสถานที่จัดเลี้ยงที่มีขนาดใหญ่และไม่ใช่ที่บ้าน เพราะจะได้ไม่ต้องยุ่งยากในการบริหารงบและจัดซื้อทุกสิ่งอย่างพร้อมทั้งลงมือลุยเองค่ะ การใช้ Organizer มาช่วยดำเนินงานในเรื่องนี้ บ่าวสาวสามารถเลือก Organizer ที่มีผลงานตรงกับสไตล์ที่วางไว้มากที่สุด พร้อมทั้งเสนอไอเดียที่ต้องการเพิ่มเติมได้ด้วย
แต่สำหรับบางโรงแรมที่มีบริการจัดงานแต่งงานแบบ One Stop Service ก็จะรวมทั้งการจัดตกแต่ง Decorate พร้อมทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในงานแต่งงานทั้งสมุดอวยพร กล่องใส่ซอง ไปจนถึงเค้กแต่งงาน น้ำแข็งแกะสลัก ฯลฯ ลงไปในแพ็คเกจแต่งงานด้วย โดยที่ทางบ่าวสาวแทบไม่ต้องจ้าง Organizer แต่ธีมงานก็จะเป็นไปตามสไตล์ของแต่ละโรงแรม บ่าวสาวอาจเลือกปรับเปลี่ยนได้แค่ธีมสีของงานเท่านั้น หากเป็นสไตล์ที่ถูกใจพอดีก็นับว่าสะดวกมาก ๆ แทบไม่ต้องยุ่งยากเตรียมอะไรเองเลย เพราะทางโรงแรมจัดการให้แบบพร้อมแต่งค่ะ
ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/Faheverphotography
เสริมสวยล่วงหน้า
ข้อนี้ว่าที่เจ้าบ่าวอาจไม่ซีเรียสนัก แต่เชื่อค่ะว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่สำหรับว่าที่เจ้าสาวแน่ ต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่าการเตรียมตัว บำรุงผิว รักษาสิว ฟิตหุ่น เฟิร์มรูปร่างให้พร้อมเป็นเจ้าสาวที่สวยสมบูรณ์แบบในตัวเองที่สุด…ต้องใช้เวลาค่ะ ฉะนั้นการจะหาสูตรเร่งรัดเพื่อขัดผิวสวย และฟิตหุ่นให้ไม่เผละภายใน 7 วัน 10 วันนั้นไม่มีทางให้ผลดีกว่าการเตรียมตัวและให้เวลาร่างกายเนิ่น ๆ แถมยังจะทำให้สาว ๆ รู้สึกกดดันมากยิ่งขึ้นเมื่อผลไม่เป็นไปตามที่คาดหวังอีกด้วย
งานนี้ Weddinglist จึงอยากแนะนำให้สาว ๆ ดูแลตัวเองล่วงหน้าหลาย ๆ เดือน ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องกดดันตัวเองมาก แต่ตั้งเป้าหมายเพื่อความมุ่งมั่น เลือกอาหารที่มีประโยชน์ ดูแลผิว ออกกำลังกายสม่ำเสมอไม่หักโหม เมื่อสุขภาพดีจากภายในแล้วความสวยออร่าพร้อมเป็นเจ้าสาวจะเปล่งปลั่งออกมาเอง แถมยังทำให้สาว ๆ สุขภาพจิตดี และมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นด้วยค่ะ
ขอบคุณภาพจาก www.weddinglist.co.th/sitphotograph
เตรียมชุดแต่งงาน
หากว่าที่บ่าวสาวมีการฟิตแอนด์เฟิร์มหุ่นมาสำหรับงานแต่งงาน เมื่อมาถึงขั้นตอนการหาชุดแต่งงานแล้ว คงต้องรักษาหุ่นให้คงที่เพื่อความแม่นยำในการแก้ไขชุดให้พอดีรูปร่างจนถึงวันแต่งงานค่ะ
สำหรับการเลือกชุดแต่งงานนั้นต้องคำนึงความพอเหมาะพอดีเข้ากับลักษณะรูปร่างเป็นหลัก และควรได้ลองชุดจริงก่อนจะตัดสินใจเช่าซื้อ ไม่ควรดูแต่ตา คำนวณไซส์แล้วตัดสินใจเลยค่ะ
- ชุดแต่งงานทรง A-Line – เหมาะกับทุกรูปร่าง โดยเฉพาะหุ่นแบบลูกแพร์ หรือเจ้าสาวที่มีช่วงขาและสะโพกใหญ่
- ชุดแต่งงานทรง Princess – เหมาะกับทุกรูปร่างเช่นกัน เหมาะที่สุดสำหรับเจ้าสาวรูปร่างสูงโปร่ง
- ชุดแต่งงานทรง Ball Gown – เหมาะกับหุ่นแบบนาฬิกาทราย มีทรวดทรงเด่นชัด แต่ไม่เหมาะกับเจ้าสาวที่มีรูปร่างเล็ก ผอมบาง เพราะชุดทรงนี้จะค่อนข้างหนัก อาจจะทำให้ลำบากเจ้าสาว และมองดูเหมือนถูกกลืนหายไปกับชุดได้ค่ะ
- ชุดแต่งงานทรงหางปลา/Mermaid – เหมาะกับหุ่นแบบนาฬิกาทราย ทรวดทรงโค้งเว้าชัดเจน และรูปร่างสูงโปร่ง ไม่เหมาะกับเจ้าสาวที่ตัวเล็กผอมบางมาก ๆ หรือเจ้าสาวที่มีช่วงขาและสะโพกใหญ่ หรือมีหน้าท้อง เพราะชุดนี้จะยิ่งเน้นให้เห็นสัดส่วนชัดเจนค่ะ
- ชุดแต่งงานทรง Empire – เหมาะกับเจ้าสาวตัวเล็ก รูปร่างบาง หรือหน้าอกเล็ก อีกทั้งด้วยความที่ชุดทรงนี้สามารถพรางสัดส่วนได้ดี จึงเหมาะสำหรับเจ้าสาวที่กำลังตั้งครรภ์อยู่อีกด้วยค่ะ
ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/VinBuddy
ขอบคุณภาพจาก www.weddinglist.co.th/sitphotograph
เตรียมการ์ด, ของชำร่วย
การ์ด และของชำร่วย ว่าที่บ่าวสาวควรเตรียมให้เกินจำนวนแขกที่วางแพลนไว้นิดหน่อยค่ะ เกินดีกว่าขาด สำหรับการ์ดควรเลือกให้สไตล์เข้ากับ Concept งานแต่งงานของเรา หากไม่เป็นสีพื้น ๆ อย่างขาว หรือครีม ก็อาจเลือกใช้สีเดียวกับธีมสีของงานค่ะ
ส่วนของชำร่วย ส่วนมากว่าที่บ่าวสาวจะเลือกของที่มีความหมายเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับตัวตนของบ่าวสาว ของสะสมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีรูปแบบสวยงามน่ารัก หรือหากจะลองไอเดียแบบอินเทรนด์หน่อย ๆ ก็อาจใช้เป็นขนม หรือของว่างขบเคี้ยว เช่น ช็อคโกแลต มาการอง คัพเค้ก ลูกกวาด ถั่วอบใส่ขวดโหลสวย ๆ ฯลฯ ก็ได้ค่ะ
ขอบคุณภาพจาก www.weddinglist.co.th/sitphotograph
หาช่างภาพ, ช่างแต่งหน้า/ทำผม
ช่างภาพแต่งงานเป็นอีกส่วนสำคัญที่ว่าที่บ่าวสาวต้องเลือกอย่างพิถีพิถันให้ตรงใจมากที่สุด เพราะช่างภาพแต่งงานจะเป็นผู้บันทึกความทรงจำในช่วงเวลาพิเศษออกมาเป็นภาพถ่ายที่จับต้องได้ ให้บ่าวสาวได้เก็บไว้นานเท่านาน
การเลือกช่างภาพวันแต่งงานนั้น บ่าวสาวควรคำนึงถึงความชอบ สไตล์ของภาพถ่ายของช่างภาพแต่ละคน บางคนเน้นองค์ประกอบสวย บางคนเน้นเก็บภาพที่สื่ออารมณ์ เน้นคนเป็นหลัก อยากได้ภาพฟีลลิ่งอบอุ่น โรแมนติก อลังการ หรือแนวสตรีท ก็ต้องเลือกให้ถูกใจถูกจริตไปทีเดียว จะแยกช่างภาพถ่ายพรีเวดดิ้ง กับวันแต่งงานเป็นคนละเจ้าก็ได้ตามแต่สะดวก จากนั้นก็พิจารณาราคาที่พองบประมาณค่ะ
ส่วนช่างแต่งหน้า/ทำผม ควรจัดการเลือกหาไว้ให้ได้เวลาไล่เลี่ยกันกับช่างภาพ เพราะทั้งทีมแต่งหน้าทำผมและช่างภาพจะต้องทำงานเป็นคิวเดียวกันไปตลอด การเลือกช่างแต่งหน้าทำผม ว่าที่บ่าวสาวควรศึกษาโปรไฟล์งานของผู้ให้บริการแต่ละเจ้าให้ดี ดูรีวิวผลงานหลาย ๆ แบบ หรือหากมีงบประมาณเหลือจะลองใช้บริการดูสักครั้งเพื่อลองดูฝีมือให้แน่ใจก่อนวันจริงก็ได้ค่ะ
ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/VinBuddy
ขอบคุณภาพจาก www.weddinglist.co.th/sitphotograph
ถ่ายพรีเวดดิ้ง, Presentation
ถ่ายรูปคู่สวย ๆ ไว้ใส่อัลบั้มหรือใส่กรอบไว้ติดผนังที่บ้าน ถ่ายเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ แต่ถ่ายพรีเวดดิ้งก่อนแต่งงานจริง ๆ น่ะมีครั้งเดียว ถ่ายทั้งทีต้องให้ได้ดั่งใจ ขั้นแรกคือเลือกสตูดิโอหรือสถานที่ ๆ ถูกใจ หรือหากอยากเน้น Story ก็อาจจะใช้เป็นสถานที่ ๆ บ่าวสาวเจอกันหรือเดทกันครั้งแรก หรือสถานที่ขอแต่งงาน ฯลฯ ต่อมาก็เลือกชุดถ่ายพรีเวดดิ้ง ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นชุดเจ้าสาวก็ได้ค่ะ อาจจะเป็นชุดไปรเวทตาม Concept ของสถานที่ ชุดคู่รัก ชุดราตรี ชุดแฟนตาซี ฯลฯ พร้อมถ่าย Presentation ไปเลยทีเดียว การนัดช่างภาพ ช่างแต่งหน้าทำผมสำหรับถ่ายงานพรีเวดดิ้งเป็นอะไรที่ต้องวางแผนอย่างดีล่วงหน้านะคะ เพื่อที่จะได้จองคิวและนัดวันให้คิวตรงกัน และเพื่อความคุ้มค่าของรายจ่ายและเวลาด้วยค่ะ
ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/Faheverphotography
ขอบคุณภาพจาก www.weddinglist.co.th/sitphotograph
เชิญแขก
การเชิญแขกนั้น หากเป็นแขกญาติผู้ใหญ่ก็อาจให้คุณพ่อคุณแม่ไปเชิญด้วยตัวเองก็ยังได้ ส่วนเพื่อนฝูงก็อาจนัดรวมกลุ่มมีตติ้งกันทีละหลาย ๆ คน แล้วแจกการ์ดทีเดียว โดยมีการทำ E-Card แชร์ในโซเชียลมีเดีย หรือตั้ง Event ใน Facebook เป็นการเชื้อเชิญแบบไม่เป็นทางการล่วงหน้าหลาย ๆ เดือน ก่อนจะแจกการ์ดจริงก็ได้ด้วยค่ะ
ส่วนแขกพิเศษเช่นประธานพิธี, เพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาว ควรมีการทาบทามกันล่วงหน้า เพื่อเป็นการเผื่อเวลาให้ผู้มาเป็นประธานได้เคลียร์ตารางเวลาของตน และจะได้มีการเตรียมการสำหรับแก๊งเพื่อนเจ้าบ่าว/เจ้าสาว พร้อมตัดชุดสวย ๆ ไว้รอด้วยค่ะ
ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/Faheverphotography
ปาร์ตี้สละโสด
เป็นปาร์ตี้ตามใจว่าที่บ่าวสาวอย่างแท้จริงค่ะ ปาร์ตี้นี้จะแยกจัดระหว่างปาร์ตี้สำหรับว่าที่เจ้าบ่าวและว่าที่เจ้าสาว ให้ได้แยกไปสนุกกับกลุ่มเพื่อนซี้เพื่ออำลาความโสด ไม่ว่าจะแฮงเอาท์ เมาปลิ้น แดนซ์กระจาย หรืออาจมีเกมที่เพื่อน ๆ จัดขึ้นเพื่อให้ว่าที่บ่าวสาวได้สนุกซุกซนกันเล็กน้อย แต่ควรให้อยู่ในขอบเขตที่จะไม่ทำให้ต้องบ้านแตกกันภายหลัง ส่วนมากมักจะปิดผับเล็ก ๆ หรือร้านอาหารเพื่อจัดปาร์ตี้กัน หรือไม่จะจัดที่บ้านก็ยังได้ แต่สำหรับว่าที่บ่าวสาวที่ต้องการปาร์ตี้แบบเป็นส่วนตัวสุด ๆ แต่มีกลุ่มเพื่อนใหญ่ขึ้นมาหน่อยสัก 50-100 คน และอยากจะสนุกพร้อมทั้งมีอาหารอร่อย ๆ รองรับด้วยโดยที่ไม่ต้องจัดเองและเก็บกวาดเอง บางโรงแรมก็มีห้องจัดเลี้ยงเล็ก ๆ ที่มีสไตล์ และมีความเป็นส่วนตัวเหมาะแก่การปาร์ตี้ไว้รองรับโดยเฉพาะค่ะ
นี่เป็น 12 ขั้นตอนอันเป็นดั่งพิมพ์เขียวสำหรับว่าที่บ่าวสาวที่กำลังวางแผนจัดงานแต่งงานในฝันด้วยตัวเอง นอกจากนี้การใช้บริการ Wedding Planner เพื่อมาจัดการสำหรับแผนทั้งหมดนี้ให้ก็เป็นการอำนวยความสะดวกให้การเดินทางนี้ง่ายขึ้น
แต่สำหรับที่ The Grand Fourwings Convention Hotel Bangkok ที่มีทีมงาน Wedding ระดับมืออาชีพคอยดูแลคู่บ่าวสาวที่ตัดสินใจจัดงานแต่งงานที่นี่ ก็เสมือนกับได้ที่ปรึกษาสำหรับการจัดงานแต่งงานไปด้วยในตัว อีกทั้งการบริการจัดงานแต่งงานแบบ One Stop Service ของที่นี่ยังทำให้การจัดงานแต่งงานของทุกคู่บ่าวสาวสะดวกและง่ายมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ
ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/Faheverphotography
คลิกเพื่อดูรีวิวโรงแรม เดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ เพิ่มเติม
คลิกเพื่อดูข้อมูลโรงแรม เดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ เพิ่มเติม
: 02 378 8000 ต่อ Wedding Team
: hotel@grandfourwings.com
THE BEST DEAL WEDDING
เพราะเราอยากเห็นคุณแต่งงาน
The Grand Fourwings Convention Hotel Bangkok
โรงแรม เดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษตลอดปี 2019 สำหรับคู่บ่าวสาวที่ต้องการบอลรูมสุดอลังการ หรูหรา เพียงจองแพ็คเกจแต่งงานวันนี้รับไปเลย
พร้อมรับของสมนาคุณอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 50,000 บาท
* เงื่อนไขเป็นไปตามที่โรงแรมกำหนด
ระยะเวลาการจอง: วันนี้ – 31 ธันวาคม 2562
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร: 02 378 8000 ต่อ Wedding Team
อีเมล: hotel@grandfourwings.com