ใส่ซองงานแต่งยังไงให้ไม่ดูน่าเกลียด เคล็ดลับดี ๆ ที่ไม่ควรพลาด

คำถามยอดฮิตเมื่อจะต้องไปงานแต่ง ทุกคนจะต้องพูดขึ้นมาว่า  ฉันจะต้อง “ใส่ซองงานแต่งเท่าไหร่” ดีนะ ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักกันเลยทีเดียว เพราะต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง ถ้าเป็นผู้ชำนาญการที่ผ่านการไปงานแต่งมาหลายที่ก็จะจัดแจงได้ว่างานของบ่าวสาวคู่นี้ต้องใส่ซองงานแต่งเท่าไหร่ แต่สำหรับมือใหม่ป้ายแดงก็ไม่ต้องกังวลใจไปทาง Weddinglist ก็ไม่พลาดที่จะมาแชร์เคล็ดลับการใส่ซองงานแต่งยังไงให้ไม่ดูน่าเกลียดและพร้อมไปงานอย่างมั่นใจ

ต้องดูก่อนว่ารายได้ต่อเดือนของเราเท่าไหร่และมีค่าใช้มากน้อยเพียงใด ถ้าเกิดว่าในเดือนนั้นมีภาระค่าใช้มากกอรปกับได้รับเชิญไปงานแต่งในช่วงเดียวกัน ต้องคิดแล้วว่าใส่ซองงานแต่งที่มากไปอาจทำให้ติดขัดกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ก็ต้องลดลงมา สิ่งสำคัญต้องดูตัวเองเป็นหลักก่อน อย่าทำให้เกินตัวจนเดือนร้อน สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจก็สามารถใช้สูตรคำนวณตามเว็บไซต์จะทำให้ตัดสินใจและประเมินตัวเองได้

สำหรับใครที่ได้ไปงานแต่งของญาติพี่น้องหรือเพื่อนสนิทในแก๊ง ความใจป้ำใจป๋าคงมาเต็มพิกัดไม่น้อยหน้าใครแน่ เพราะเป็นวันสำคัญของคนที่เรารัก อาจจะใส่ซองงานแต่งให้เพื่อนสนิทมากกว่างานอื่น ๆ เพื่อแสดงความสนับสนุนที่มีต่อคู่บ่าวสาวอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพึงพอใจและความสนิทสนมที่มีต่อเจ้าภาพงาน

เมื่อถึงวันงานที่เราไม่สามารถไปร่วมงานได้ สามารถปรับลดจำนวนเงินที่ใส่ซองงานแต่งได้ จากตอนแรกใส่ซอง 800 บาท ลดลงมาเป็น 600 บาท ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่ได้น่าเกลียดจนเกินไป แต่ต้องพิจารณาตามความเหมาะสมให้ดี  สำหรับใครที่ไม่ติดธุระและสามารถไปร่วมงานเองได้ก็ใส่ซองงานงานแต่งเต็มจำนวนที่ตั้งใจไว้ได้เลย

การอ่านรายละเอียดของการจัดงานต่าง ๆ จะทำให้รู้ข้อมูลของวันที่ สถานที่จัดงานและรูปแบบอาหารว่าเป็นบุฟเฟต์หรืออาหารจานเดียว ถ้าเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานขนาดใหญ่ มีความหรูหรา ก็ต้องคิดแล้วว่าคู่บ่าวสาวคงเสียค่าใช้จ่ายกับส่วนนี้ไปค่อนข้างมาก ฉะนั้นเมื่อประเมินข้อมูลเบื้องต้น การใส่ซองงานแต่งที่คำนึงถึงสถานที่จัดงานไปด้วยจะเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของเจ้าภาพได้อีกทางหนึ่ง

ปกติแล้วเจ้าภาพจะคิดภาพว่าการมาร่วมงานต่อรับเชิญ 1 ซองอยู่ที่ 1 – 2 คน ที่มาเป็นคู่หรือมากกว่า 2 คนขึ้นไปในรูปแบบของครอบครัวใหญ่ ทำให้การใส่ซองงานแต่งต้องมีการบวกเพิ่มตามจำนวนคนที่ไปร่วมงานด้วยอาทิ ไปร่วมงาน 1 คน ใส่ซองไป 500 บาท แต่มีคู่ร่วมงานไปด้วยอาจเพิ่มเป็น 800-1000 บาท ตามความเหมาะสม สำหรับใครที่มีผู้ติดตามมาด้วยหลายคนควรจะเพิ่มจำนวนเงินในซองให้มากหน่อยเพื่อให้ไม่ดูน่าเกลียดและให้เกียรติเจ้าของงาน

สำหรับคู่ไหนที่ผ่านการแต่งงานมาแล้วและได้รับเชิญไปงานต่อไป ต้องมาดูก่อนว่าจำคนที่มาช่วยงานตอนงานแต่งเราได้หรือถ้าจำไม่ได้ก็สามารถดูในสมุดบันทึกรายการแขกที่มาร่วมงานก่อนว่าเขาเคยใส่ซองงานแต่งเท่าไหร่ เพื่อที่จะทำให้เราใส่ซองได้อย่างเหมาะสมโดยใส่เท่ากับจำนวนเดิมหรือบวกเพิ่มขึ้น แต่ไม่ควรน้อยกว่าที่เขาเคยใส่ซองงานแต่งเรา ในเรื่องนี้ต้องระวังค่อนข้างมาก 

ในกรณีที่ถูกเชิญไปงานแต่งของลูกค้าหรือเพื่อนร่วมงานที่ไม่ใช่คนสนิทโดยตรง การใส่ซองงานแต่งที่คำนึงถึงหน้าที่การงานหรือความชำนาญการในอายุงานก็มีความสำคัญนะ ยิ่งอยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้นการใส่ซองงานแต่งที่เหมาะสมจะทำให้ภาพลักษณ์เราออกมาดี และเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีที่แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจและความใส่ใจต่อคนสำคัญ

นอกจากเงินที่ใช้ในการใส่ซองงานแต่งก็ยังมีการให้ของขวัญแทนใจ เป็นอีกสิ่งที่ทำให้คู่บ่าวสาวประทับใจไม่แพ้กัน สำหรับผู้ร่วมงานที่เจ้าภาพไม่ได้นำซองงานแต่งไปให้แต่บอกด้วยปากเปล่า อาจจะรับซองได้ที่โต๊ะลงทะเบียนหน้างานหรือเตรียมของขวัญที่มีมูลค่าทางราคาและจิตใจมามอบให้บ่าวสาวเป็นของที่ระลึกที่น่าจดจำ

จริง ๆ แล้วการใส่ซองงานแต่งก็มีเรื่องให้คิดเยอะเหมือนกัน ไม่แปลกใจที่หลายคนมักจะเป็นกังวลว่าต้องใส่เท่าไหร่ถึงจะพอเหมาะพอดีให้เจ้าของงานไม่มองว่าน่าเกลียดเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องดูที่ตัวเองเป็นหลักว่าเรามีกำลังทรัพย์ที่จะใส่ซองงานแต่งได้มากแค่ไหน ถ้ามากเกินจนทำให้ตัวเองเดือดร้อนทางเจ้าภาพก็อาจจะเสียใจได้ที่ทำให้ต้องรู้สึกลำบาก ฉะนั้นต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายตัวเองและสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันเป็นหลัก 

ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพจาก: Pinterest