แจกทริก! วิธีเขียนการ์ดเชิญงานแต่ง พร้อมแจกการ์ดยังไง ให้แขกปลื้มใจ

การเขียนหน้าซองการ์ดเชิญผู้ใหญ่และเพื่อน ๆ ก็เป็นอีกเรื่องที่คู่บ่าวสาวต้องใส่ใจเหมือนกับเรื่องอื่น ๆ เลยค่า เพราะว่า “การ์ดงานแต่ง” จะต้องระบุรายละเอียดสำคัญ ๆ ให้ชัดเจนและเหมาะสม ถ้าใครอยากได้ทริกดี ๆ เอาไว้เขียนการ์ดงานแต่ง และไอเดียแจ๋ว ๆ ในการไปแจกซองล่ะก็ เชิญทางนี้เลยค่า

เขียนการ์ดงานแต่งแบบมือโปร แขกไม่ต้องโทรถามอีกรอบ

เวลาเขียนการ์ดงานแต่ง บ่าวสาวควรระบุข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อให้แขกในงานได้เตรียมตัว และวางแผนได้สะดวก ส่วนในการ์ดควรมีข้อมูลอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่า

1. ชื่อ-สกุลของทั้งเจ้าสาวและเจ้าบ่าว

อันนี้เป็นอย่างแรกที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ เพราะบางครั้งแขกอาจจะได้รับการ์ดงานแต่งพร้อมกันหลายใบ จนทำให้สับสนได้ว่าการ์ดใบไหนเป็นของบ่าวสาวคู่ไหน หรือเมื่อแขกไปถึงสถานที่จัดงานแต่งแล้ว จะได้เช็กได้ว่ามาถูกงานหรือเปล่านั่นเองค่า

2. สถานที่จัดงานแต่ง

ชื่อของสถานที่จัดงานต้องระบุให้ชัดเจนสุด ๆ เลยค่ะ เพราะบางสถานที่อาจมีหลายสาขา จนเกิดการสับสนได้นะค้า และถ้าสามารถใส่ข้อมูลเพิ่มเติมให้เน้น ๆ ด้วย จะยิ่งยอดเยี่ยมเลยค่า เช่น ห้องจัดเลี้ยงคือห้องไหน ข้อมูลที่อยู่หรือที่ตั้ง จังหวัด เขต/อำเภอ หรือแปะ QR Code ของสถานที่จัดงานไปด้วยเลย อันนี้ทั้งสะดวกและทันสมัยเลยล่ะค่า

3. วันที่จัดงานแต่งงาน

หลังจากได้ฤกษ์แต่งงานมาแล้ว ก็อย่าลืมเขียนลงในการ์ดงานแต่งด้วยนะค้า ซึ่งคู่บ่าวสาวควรใส่ทั้งวัน เดือน ปี เอาให้ครบเลยค่ะ

4. เวลาและหมายกำหนดการงานแต่งงาน

การลงรายละเอียดช่วงเวลาของแต่ละพิธีการ จะช่วยให้บ่าวสาวควบคุมการมาเยือนของแขกได้ดีขึ้นค่ะ เช่น งานเริ่มกี่โมง แห่ขบวนขันหมากเมื่อไหร่ ฤกษ์สวมแหวนคือตอนไหน พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์อยู่ช่วงใด เริ่มรับประทานอาหารกี่โมงถึงกี่โมง หรือถ้าเป็นพิธีแต่งงานแบบจีน ก็ระบุด้วยได้เลยค่ะว่า พิธียกน้ำชาจะเริ่มตอนกี่โมง

5. รูปแบบจัดงานเลี้ยง

รูปแบบจัดงานเลี้ยงแต่งงานมีหลากหลายแบบเลยค่ะ ถ้าชี้แจงลงไปในการ์ดด้วย ก็จะทำให้แขกที่มาร่วมงานเตรียมตัวถูก โดยเฉพาะกับแขกผู้หญิงที่จะต้องเลือกรองเท้าให้เหมาะกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในงานแต่งค่า

6. Dress Code หรือ Theme

อันนี้เป็นข้อมูลที่เอาไว้ใช้นัดหมายการแต่งตัว ซึ่งสำคัญเหมือนกันนะค้า ดังนั้น บ่าวสาวควรระบุให้ชัดเจนไปเลยว่าเป็นสีอะไร ธีมอะไร หรือรูปแบบไหน เช่น Minidress, Maxi Dress, Suit หรือ Tuxedo เป็นต้นค่ะ และถ้าไม่มีข้อกำหนด ก็ควรเขียนในการ์ดงานแต่งเช่นกันค่ะ เพื่อความชัดเจน บรรดาแขกที่มาร่วมงานจะได้รับทราบว่าใส่ชุดอะไรก็ได้จริง ๆ หรือมีธีมหรือเปล่า

Special Tips

นอกเหนือจาก 6 ข้อมูลสำคัญที่ควรเขียนในการ์ดงานแต่งแล้ว ก็ยังสามารถเพิ่มเติมข้อมูลได้อีกมากมายตามใจต้องการเลยค่ะ เช่น 

• ชื่อ-สกุลของบิดาและมารดาของทั้งคู่
• ชื่อ-สกุลประธานในพิธีแต่งงาน
• แฮชแท็กงานแต่ง
• คำว่า “ขออภัยหากมิได้เรียนเชิญด้วยตัวเอง”
• คำว่า “โปรดตอบกลับเพื่อยืนยันคำเชิญ” ในกรณีที่ต้องการรู้ว่าแขกจะมาหรือไม่มา

เตรียมการ์ดให้พร้อม เขียนซองงานแต่งให้ครบ

สำหรับการเขียนหน้าซองการ์ดเชิญผู้ใหญ่แบบทางการ จะแบ่งเป็น 3 รูปแบบค่ะ 

• แขกผู้ใหญ่ที่เป็นข้าราชการ

เรียนเชิญคุณ … (ชื่อ-สกุล) … และภริยา

• แขกผู้ใหญ่ที่เป็นบุคคลทั่วไป

เรียนเชิญคุณ … (ชื่อ-สกุล) … และภรรยา

• แขกผู้ใหญ่ที่เป็นคู่สมรสหรือมีครอบครัว

เรียนเชิญคุณ … (ชื่อ-สกุล) … และครอบครัว

แต่ถ้าเป็นการเขียนการ์ดแต่งงานให้เพื่อนแบบไม่ทางการล่ะก็ สามารถเขียนแบบใดก็ได้ค่ะ เช่น จ่าหน้าซองงานแต่งด้วยชื่อ-สกุลของเพื่อน ชื่อเล่นของเพื่อน และอาจตามด้วยฉายาหรือสถานะความสัมพันธ์ อย่าง ชื่อคณะ ชื่อมหาวิทยาลัย ชื่อที่ทำงาน เป็นต้นค่ะ ซึ่งแบบนี้จะทำให้การจ่าหน้าซองการ์ดเชิญเพื่อนมางานแต่งดูเป็นกันเอง และสนิทสนมกันมาก ๆ ไปเลยค่า

3 ข้อที่บ่าวสาวควรรู้ เมื่อต้องแจกการ์ดเชิญแขกมางานแต่ง

1. แจกการ์ดงานแต่งล่วงหน้า แต่ก็ไม่น่านานเกินไป

ถ้าเจ้าบ่าวและเจ้าสาวแจกการ์ดกะทันหันเกินไป ก็อาจทำให้แขกเตรียมตัวไม่ทันได้ค่ะ หรือในทางกลับกัน ถ้าแจกการ์ดล่วงหน้านานเกินไป ก็อาจจะทำให้แขกลืมได้เหมือนกันนะค้า ดังนั้น จังหวะที่ดีที่สุดที่ควรแจกการ์ดแต่งงานก็คือ 4-6 สัปดาห์ก่อนวันที่จัดงานแต่งงานนั่นเองค่า

2. การ์ดงานแต่งเหลือได้ แต่ขาดแล้วยุ่งยาก

หลังจากที่ List รายชื่อแขกทั้งหมดออกมาแล้ว เวลาสั่งพิมพ์การ์ด คู่บ่าวสาวควรสั่งและเตรียมซองเผื่อไว้อย่างน้อย 5% ของจำนวนแขกทั้งหมดค่ะ เพราะอาจเกิดหลงลืมใครบางคนไป แล้วมานึกขึ้นได้ทีหลังค่ะ และบ่อยครั้งที่บ่าวสาวเขียนซองงานแต่งผิด จะได้หยิบส่วนเกินตรงนี้มาใช้ได้อย่างสบายใจด้วยค่ะ

3. วิธีแจกการ์ด 3 แบบที่ควรรู้

• การเดินทางไปหาด้วยตัวเอง เพื่อแจกการ์ดงานแต่งให้เป็นรายบุคคล ดูเป็นวิธีที่สร้างความประทับใจได้มากที่สุด เหมาะกับแขกผู้ใหญ่คนสำคัญ หรือแขกที่เป็น VIP ค่ะ 
• การนัดพบกันเป็นกลุ่มใหญ่ แล้วแจกทีเดียวไปเลย นับว่าเป็นวิธีที่ได้ทั้งแจกการ์ด ได้ทั้งปาร์ตี้ ได้ทั้งเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกด้วยค่ะ เหมาะกับแก๊งเพื่อน หรือไม่ก็เครือญาติที่สนิทกันค่า
• การส่งเป็น E-Card ทางออนไลน์ ถือว่าเป็นวิธีที่ทันสมัย สะดวก ง่าย แถมไม่มีวันทำการ์ดหายแน่นอนค่า แต่ก็อาจจะไม่เหมาะกับแขกผู้ใหญ่ที่ไม่ชำนาญอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เท่าไหร่น้าค้า

1 ในขั้นตอนการเตรียมงานแต่งงาน อย่าง การเขียนหน้าซองการ์ดเชิญผู้ใหญ่และเพื่อน ๆ ก็เป็นอะไรที่สามารถใส่ความเป็นตัวของตัวเอง หรือไอเดียต่าง ๆ ลงไปได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ ดังนั้น Weddinglist ก็เลยอยากขออวยพรให้คู่บ่าวสาวทุก ๆ คู่ สนุกไปกับการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ และเอ็นจอยกับการแจกการ์ดนะค้า Congratulations ล่วงหน้าค่า!!!