Depositing eggs to have children and depositing sperm 3

การฝากไข่และการฝากสเปิร์มเพื่อมีบุตร คู่มือวางแผนครอบครัวสำหรับอนาคต – Weddinglist


สำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่แต่งงานแล้วและมีแพลนจะมีลูกแต่ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้เมื่อหลังแต่งงาน ทุกท่านอาจจะมีความกังวลว่าหากอายุใกล้เลข 3 หรือ 4 จะมีบุตรยากหรือกังวลว่าจะมีบุตรหรือไม่ ความกังวลนั้นจะหายไปหากท่านปรึกษาคุณหมอเพื่อฝากไข่หรือฝากสเปิร์มเมื่อถึงเวลาที่ท่านพร้อมท่านสามารถทำการมีบุตรได้โดยไม่ต้องกังวลเพราะอยู่ในความควบคุมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว และวันนี้ Weddinglist จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับ การฝากไข่เพื่อมีบุตร และ การฝากสเปิร์ม เป็นคู่มือวางแผนครอบครัวสำหรับอนาคต จะมีขั้นตอนอะไรบ้างไปรับชมกันได้เลยค่า

การฝากไข่ หรือ การแช่แข็งไข่ (Oocyte Cryopreservation / Egg Freezing) เป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ช่วยให้ผู้หญิงสามารถเก็บเซลล์ไข่ที่มีคุณภาพไว้ใช้ในการมีบุตรในอนาคตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่ต้องการเลื่อนการตั้งครรภ์ออกไป หรือมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะมีบุตรยากที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันเนื่องมาจากอายุที่เพิ่มขึ้น หรือปัจจัยอื่นๆ เช่น การรักษาโรคมะเร็ง เป็นต้น

Depositing eggs to have children and depositing sperm 1

ทำไมต้องฝากไข่?

  • รักษาคุณภาพไข่: เซลล์ไข่ของผู้หญิงจะมีคุณภาพลดลงตามอายุ การฝากไข่ในช่วงอายุที่ไข่อยู่ในสภาพดีที่สุด จึงเป็นการรักษาคุณภาพของไข่ไว้
  • วางแผนมีบุตรในอนาคต: สำหรับผู้หญิงที่ต้องการมุ่งเน้นการศึกษาหรืออาชีพก่อน สามารถฝากไข่ไว้เพื่อมีบุตรในเวลาที่เหมาะสม
  • ป้องกันภาวะมีบุตรยาก: เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ต้องเข้ารับการรักษาที่อาจส่งผลต่อการทำงานของรังไข่ เช่น การรักษาโรคมะเร็ง
  • สำหรับคู่รักเพศเดียวกัน: ผู้หญิงที่เป็นคู่รักเพศเดียวกัน สามารถใช้ไข่ของตนเองร่วมกับอสุจิของผู้บริจาคเพื่อมีบุตรได้
Depositing eggs to have children and depositing sperm 2

กระบวนการฝากไข่มีดังนี้

  • กระตุ้นรังไข่: แพทย์จะให้ยาเพื่อกระตุ้นให้รังไข่สร้างไข่มากขึ้น
  • เก็บไข่: เมื่อไข่เจริญเติบโตเต็มที่ แพทย์จะทำการส่องกล้องเพื่อดูดไข่ออกมาจากรังไข่
  • แช่แข็งไข่: ไข่ที่ได้จะถูกนำไปแช่แข็งในอุณหภูมิต่ำมาก เพื่อรักษาคุณภาพ
  • นำไข่มาใช้: เมื่อพร้อมจะมีบุตร แพทย์จะนำไข่ที่แช่แข็งมาละลาย และนำไปปฏิสนธิกับอสุจิ จากนั้นจึงนำตัวอ่อนที่ได้ไปฝังในมดลูก
การฝากไข่และการฝากสเปิร์ม

ข้อดีในการฝากไข่

  • เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์: โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่มีอายุมากขึ้น หรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก
  • วางแผนครอบครัวได้อย่างมีอิสระ: สามารถเลื่อนการตั้งครรภ์ออกไปได้ตามต้องการ
  • รักษาความเป็นปัจเจก: ใช้ไข่ของตนเอง จึงมั่นใจได้ว่าลูกที่เกิดมามีสายเลือดของตนเอง

ข้อที่ควรพิจารณาจากการฝากไข่

  • ค่าใช้จ่าย: การฝากไข่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
  • กระบวนการทางการแพทย์: มีขั้นตอนที่ซับซ้อน และอาจมีผลข้างเคียงจากยาที่ใช้กระตุ้นรังไข่
  • ความสำเร็จในการตั้งครรภ์: แม้ว่าการฝากไข่จะเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ แต่ก็ไม่ได้รับประกันความสำเร็จเสมอไป

หากคุณสนใจที่จะฝากไข่ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะมีบุตรยาก เพื่อรับคำแนะนำและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ: ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในการรักษาภาวะมีบุตรยาก
  • เตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ: การฝากไข่เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ทั้งเวลาและความอดทน
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย: เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการฝากไข่

*** หมายเหตุ: ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

การฝากสเปิร์มเพื่อมีบุตร

การฝากสเปิร์ม หรือ การแช่แข็งสเปิร์ม (Sperm Freezing) คือกระบวนการทางการแพทย์ที่นำน้ำเชื้ออสุจิของผู้ชายมาแช่แข็งเก็บไว้ในอุณหภูมิที่ต่ำมาก เพื่อรักษาคุณภาพของสเปิร์มไว้ใช้งานในอนาคต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคู่รักที่ต้องการมีบุตร แต่ยังไม่พร้อม หรือมีความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อคุณภาพของสเปิร์มในอนาคต

การฝากไข่และการฝากสเปิร์ม

เหตุผลที่ควรฝากสเปิร์ม

  • วางแผนครอบครัว: สำหรับคู่รักที่ต้องการมีบุตรในอนาคต แต่ยังไม่พร้อม หรือต้องการเลื่อนการมีบุตรออกไป
  • รักษาคุณภาพสเปิร์ม: ช่วยรักษาคุณภาพของสเปิร์มในกรณีที่ต้องเข้ารับการรักษาที่อาจส่งผลต่อการผลิตสเปิร์ม เช่น การรักษาโรคมะเร็ง การผ่าตัดบริเวณอัณฑะ หรือการใช้ยาบางชนิด
  • สำหรับคู่รักเพศเดียวกัน: ผู้ชายที่เป็นคู่รักเพศเดียวกัน สามารถใช้สเปิร์มของตนเองร่วมกับไข่ของผู้บริจาคเพื่อมีบุตรได้
  • สำหรับผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องการมีบุตร: เช่น มีจำนวนสเปิร์มน้อย หรือสเปิร์มมีคุณภาพไม่ดี
6

กระบวนการฝากสเปิร์มโดยสรุป

  • เก็บน้ำเชื้อ: ผู้ชายจะทำการหลั่งน้ำเชื้อโดยวิธีสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง
  • เตรียมน้ำเชื้อ: น้ำเชื้อที่ได้จะถูกนำมาตรวจสอบคุณภาพ และเตรียมพร้อมสำหรับการแช่แข็ง
  • แช่แข็งสเปิร์ม: สเปิร์มจะถูกนำไปแช่แข็งในอุณหภูมิต่ำมาก เพื่อรักษาคุณภาพ
  • นำสเปิร์มมาใช้: เมื่อพร้อมจะมีบุตร สเปิร์มที่แช่แข็งจะถูกนำมาละลาย และนำไปปฏิสนธิกับไข่
การฝากไข่และการฝากสเปิร์ม

ข้อดีของการฝากสเปิร์ม

  • รักษาความเป็นปัจเจก: ใช้สเปิร์มของตนเอง จึงมั่นใจได้ว่าลูกที่เกิดมามีสายเลือดของตนเอง
  • เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์: สำหรับคู่รักที่มีปัญหาเรื่องการมีบุตร
  • วางแผนครอบครัวได้อย่างมีอิสระ: สามารถเลื่อนการมีบุตรออกไปได้ตามต้องการ
การฝากไข่และการฝากสเปิร์ม

ข้อควรพิจารณาจากการฝากสเปิร์ม

  • ค่าใช้จ่าย: การฝากสเปิร์มมีค่าใช้จ่าย
  • กระบวนการทางการแพทย์: มีขั้นตอนที่ต้องเตรียมตัว
  • ความสำเร็จในการตั้งครรภ์: ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น คุณภาพของสเปิร์ม และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำเด็กหลอดแก้ว

หากคุณสนใจที่จะฝากสเปิร์ม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะมีบุตรยาก เพื่อรับคำแนะนำและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ: ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในการรักษาภาวะมีบุตรยาก
  • เตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ: ควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง และเตรียมตัวทางใจให้พร้อม
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย: เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการฝากสเปิร์ม

*** หมายเหตุ: ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

การฝากไข่และการฝากสเปิร์ม
Depositing eggs to have children and depositing sperm 4

ขอขอบคุณรูปภาพจาก canva.com