ดอกไม้งานแต่งแต่ละชนิดมีความสวยงามและแฝงความหมายแตกต่างกันออกไป ซึ่งเป็นสิริมงคลอยู่คู่กับประเพณีต่าง ๆ มานาน Weddinglist ขอพูดถึง “ความหมายของดอกไม้ในงานวิวาห์” ให้สาว ๆ นำไปใช้เพื่อเกิดสิริมงคลแก่ความรักและชีวิตคู่กันนะคะ 😀
ได้ชื่อว่าเป็นดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ที่มีกลิ่นหอม ความหมายสื่อถึง ความรักอันบริสุทธิ์ ที่หอมตลบอบอวลตราบนานเท่านาน เป็นดอกไม้อีกหนึ่งชนิดที่คู่บ่าว-สาว นิยมนำมาใช้ในพิธีมงคลเช่นเดียวกับดอกรัก คือ นำมาร้อยเป็นพวงมาลัย หรือนำมาตกแต่งในบริเวณงานแต่ง ก็หอม ดูแล้วสบายตาดีค่ะ
ดอกรัก
ด้วยชื่อเรียกที่ตรงไปตรงมา สื่อความหมายถึง ความรักของคู่บ่าว-สาว จึงนิยมนำมาใช้เป็นดอกไม้ในงานแต่ง ไม่ว่าจะเป็นการนำมาร้อยเป็นพวงมาลัย ตกแต่งพานขันหมาก โปรยบนที่นอนในพิธีการปูที่นอน หรือนำไปตกแต่งตามบริเวณต่าง ๆ ของงานแต่งงาน แค่ชื่อก็เหมาะกับการนำไปใช้แล้วค่ะ
ดอกดาวเรือง
มีความหมายว่า ความเจริญรุ่งเรือง หมายถึงครอบครัวใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองและยังสื่อถึงความรักที่มาพร้อมความรุ่งเรืองในทุก ๆ ด้าน เช่น เงินทอง ความสุข หน้าที่การงาน อีกด้วย เรียกได้ว่า ดีสาระพัดแบบนี้ไม่นำไปประดับในงานแต่งคงไม่ได้แล้วล่ะค่ะ
ดอกเบญจมาศ
มีอีกชื่อหนึ่งคือ ดอกมัม เป็นดอกไม้แต่งงานอีกชนิดที่นิยมนำมาใช้ในงานเพื่อความสิริมงคลอย่างมาก โดยดอกเบญจมาศแต่ละสีก็จะมีความหมายที่แตกต่างกันค่ะ ได้แก่
- สีแดง : ความรักใคร่ชอบพอ
- สีเหลือง : ความโชคดี
- สีขาว : ความรักที่ซื่อสัตย์
ดอกบานไม่รู้โรย
เป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความรักที่ดีของคู่บ่าวสาว ที่สำคัญจะรักกันไม่รู้โรยและรักกันมั่นคงตลอดไป เหมือนชื่อดอกไม้นั่นเองค่ะ นอกจากจะนิยมใช้เป็นดอกไม้งานแต่งแล้ว ยังนิยมปลูกไว้ที่บ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลให้บ่าวสาวทั้งคู่ด้วยค่ะ
ดอกทานตะวัน
เป็นดอกไม้สีเหลืองสด ที่จะบานหรือหันไปตามแสงอาทิตย์ ซึ่งมีความหมายถึง ความเชื่อมั่น ความมั่นคง ความอดทน การฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน ดังนั้น การนำดอกทานตะวันมาใช้เป็นดอกไม้ในงานแต่ง จึงเป็นการสื่อความหมายว่า ความรักของคุณจะมั่นคงและซื่อตรงต่อกันไปตลอดกาลนั่นเองค่ะ
ดอกกุหลาบ
ดอกไม้อมตะที่ใคร ๆ ก็เลือกใช้ เพราะเป็นสัญลักษณ์ของวันแห่งความรัก หรือ วันวาเลนไทน์นั่นเองค่ะ ซึ่งการสื่อความหมายของดอกกุหลาบแต่ละสีก็แตกต่างกันออกไป เช่น
- สีแดง : การตกหลุมรัก ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ รักแท้
- สีส้ม : ความสดใสในแบบการเป็นตัวของตัวเอง
- สีชมพู : ความรักที่สมบูรณ์แบบ
- สีขาว : ความสงบ ความรักที่สะอาดและบริสุทธิ์
ดอกคาร์เนชัน
ตามตำนานชาวกรีกโรมันนิยามดอกคาร์เนชันว่า เป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลอง ก็เลยกลายเป็นดอกไม้ที่นิยมใช้ในงานแต่งกันถ้วนหน้าค่ะ แถมแต่ละสีนั้น มีความหมายแต่งต่างกันด้วยนะคะ ดังนี้
- สีแดง : ความรักที่ยิ่งใหญ่
- สีชมพู : ความรักที่ผลิบาน ไม่มีร่วงโรย
- สีขาว : ความรักที่บริสุทธิ์ อ่อนโยน น่าทะนุถนอม
ดอกลิลลี่
เปรียบเหมือนความรักที่อ่อนหวาน โดยดอกลิลลี่แต่ละสีก็จะมีความหมายที่แตกต่างกันไปค่ะ อาทิ
- สีส้ม : ความกระปรี้ประเปร่าตลอดเวลา ความสุขเมื่อได้อยู่ใกล้คนรัก
- สีชมพู : ความรักหวานแหวว การพบเจอความรักที่เป็นที่สุดของหัวใจ
- สีเหลือง : ความรักความห่วงใย ความสดใสเหมือนได้กลับไปเป็นวัยแรกรุ่น
- สีขาว : ความรักที่บริสุทธิ์ ไม่มีมลทิน ความอ่อนหวาน ความเคารพซึ่งกันและกัน หรือจะเรียกว่าเป็นการ เทิดทูนก็ได้
ดอกกล้วยไม้
เป็นดอกไม้แต่งงานที่มี 3 โหมดใน 1 สายพันธุ์เลยค่ะ โหมดแรกคือ ความมั่งคั่ง ร่ำรวย เพราะเป็นดอกไม้ที่ราคาสูง โหมดสองคือ ความสง่างาม สูงศักดิ์ ด้วยรูปทรงดอกที่ใหญ่ สวยงาม ดูอลังการ และโหมดสุดท้ายคือ ความโรแมนติก เนื่องจากได้รับความนิยมสูงมาก เป็นดอกไม้งานแต่งที่ใครก็ต้องการค่ะ
ดอกไฮเดรนเยีย
ด้วยกลีบดอกที่บอบบาง จึงต้องยกให้เป็นดอกไม้งานแต่งที่เป็นตัวแทนของความนุ่มนวล น่าสัมผัส อ่อนโยน อีกทั้งยังมีความหมายแฝงแทนคำขอบคุณอีกด้วย ทำให้ดอกไฮเดรนเยียสามารถจับวางไว้ตรงไหนก็เหมาะสมไปหมดค่ะ เช่น ช่อดอกไม้เจ้าสาว เข็มกลัดติดหน้าอก พุ่มดอกไม้ในแจกัน หรือติด Backdrop ก็ได้ค่ะ
ดอกเยอบีรา
เป็นอีกหนึ่งดอกไม้ที่มีสีให้เลือกใช้เยอะมาก ๆ และแต่ละสีก็มีความหมายแตกต่างกันไปค่ะ
- สีเหลือง : ความสนุกและสดใส
- สีแดง : การตกหลุมรัก
- สีชมพู : ความยินดี
- สีขาว : ความรักที่บริสุทธิ์ใจ ความจริงใจ
- สีส้ม : การให้กำลังใจ
- สีม่วง : ความรักและเคารพในตัวตน
เป็นยังไงกันบ้างคะ? ความหมายดอกไม้ในงานแต่งแต่ละชนิด น่ารัก ๆ ทั้งนั้นเลยใช่ม๊า แต่ใด ๆ คือแต่ละดอกสวยงามแบบไม่ซ้ำกันเลยค่ะ รับรองว่า… ถ้าได้ Mix and Match แต่ละพันธุ์แต่ละสีเข้าด้วยกัน นอกจากจะสร้างบรรยากาศให้โรแมนติกแล้ว กลิ่นจะต้องหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งงานแน่นอนค่า 🙂
